top of page

เดอะ มอธ


ภาพประกอบโดย LittleLark



งานเขียนชิ้นแรกในชีวิตของคุณหญิงจำนงศรีที่ได้รับการตีพิมพ์ เป็นผลงานเรื่องสั้น ชื่อ The Moth แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ต้นฉบับสูญหายไปและไม่สามารถค้นหาวารสาร สามัคคีสาร ฉบับที่ตีพิมพ์เรื่องนี้ได้

จึงมีเพียงเรื่องเล่าจากความทรงจำของคุณหญิง


"งานชิ้นแรกที่ได้รับการตีพิมพ์ เขียนเมื่อตอนอายุไม่เกิน 16 เป็นงานที่มืดมาก อาจจะมืดเว่อร์ด้วยซ้ำ ตอนที่เขียนไม่ได้มีความคิดว่าจะมีการตีพิมพ์ เพราะว่ายังเด็ก และสมัยนั้นการจะได้การตีพิมพ์เรื่องใหญ่มาก มันยาก ต้องผ่านอะไรหลายอย่าง เราก็เป็นแค่เด็ก


"ตอนนั้นอยู่ในลอนดอน เป็นวันที่ฝนตกพรำมาก และที่อังกฤษในยุคที่ป้าอยู่ เวลาที่หนาวมันแฉะ ก็หนาว แฉะจริงๆ ฮีตเตอร์ยังเป็นแก๊ส แล้วก็อยู่คนเดียว...เขียนก็..ไม่ค่อยอยากให้ใครอ่านแล้ว มีความรู้สึกว่าภาษาที่ใช้ค่อนข้างเว่อร์ ...ไม่อยากกลับไปอ่านอีก


"เป็นเรื่องของคนที่รอคอยความงามบางอย่าง เป็นผู้ชาย เปิดฉากนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง คอยเวลาค่ำในอากาศที่ฝนพรำ ซึ่งก็คือบรรยากาศที่เรานั่งอยู่ที่หน้าต่างตอนนั้น คือหนาว ชื้น มืดมนแต่ยังไม่ค่ำ

เขารอการค่ำ เขามีสิ่งที่อยู่ในใจ ที่เขารู้สึกว่าจะต้องทำให้มันจบ เพื่อจบความทรมานของเขา

สิ่งที่เขาคอยก็มา เวลาเปิดไฟ...มันคือตัวชีประขาว desceipiom ของมอธ เวลาที่มันมา มันเล่นรอบไฟ สำหรับเขามันงามมาก


"มันมีตาสีดำ ปีกที่เวลากระพือแล้วเหมือนเสื้อสีขาวที่พลิ้ว มันมาเป็นวันที่สามแล้ว (-ที่จริงป้าไม่รู้ว่ามอธมีชีวิตอยู่กี่วัน-) เขาตั้งใจว่า วันนี้วันที่สามแล้ว ช่วงการรอคอยให้มันมา เพื่อเขาจะได้มีความสุขกับความงดงามของมัน มันช่างทรมานเหลือเกิน วันนี้เขาจะจบมัน


"พอมันมา... เขาก็คว้ามันแล้วบี้เป็นฝุ่นไปเลย...


"ความหมายที่สอดไว้ข้างใน ก็คือ การรอคอย เหมือนเมื่อวัยเด็กที่เขาป่วย และรอคอยแม่ที่เป็นผู้หญิงที่สวยมาก ตาของมอธเตือนให้เขานึกถึงเธอ เวลาเธอมา เธอจะงามมาก เสื้อสีขาวเทาพลิ้วงามมาก

...วันหนึ่งเขาไม่เห็นเธออีกเลย


"ความเจ็บปวดของการไม่เห็นอีกเลย มันรอคอย ที่เขาฆ่ามอธนี่ เพราะว่า เขาจะไม่รออีกแล้ว ความงามที่ผูกใจเขาเสียเหลือเกิน... ที่ทรมานเขา..อย่าให้มีอีกเลย ทำลายเสียดีกว่า..."


คุณหญิงเล่าว่า เรื่องสั้นเรื่องแรกที่เขียนในวัยเยาว์นี้ มีอิทธิพลของนักเขียนที่ชื่นชอบ คือ อดการ์ แอลลัน โพ (Edgar Allan Poe)

"นี่เล่าด้วยปาก แต่เวลาเขียน เขียนแบบ.. สมัยก่อนอ่าน อดการ์ แอลลัน โพ เยอะ ถ้าอ่านก็จะเห็นว่า มันไม่ได้เป็นเรื่องเล่าแบบชัดเจน...เป็นเรื่องเล่าจากผู้ชายคนนี้ ความทรมานของเขา ความคิดของเขา และการกระทำของเขา...เขาทำลายความงาม ให้มันเสร็จสิ้นไป มันจะได้ไม่ต้องมาผูกใจเขาอีก ให้จบไปเลย.. รู้สึกค่อนข้างจะมืดและแรงสำหรับเด็ก...


"หลังจากนั้น ไม่เคยคิดว่าจะได้รับการตีพิมพ์ แต่ต่อมาบรรณาธิการวารสารของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ชื่อ สามัคคีสาร มาขอไปตีพิมพ์ สักปีสองปีหลังจากที่เขียน


"นั่นเป็นงานชิ้นแรก ขณะนี้ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่จำได้ว่าเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เคยไปอ่านอีกครั้ง ก็รู้สึกสยองขวัญมากกับภาษา.. คือเป็นภาษาที่เว่อร์มาก...อารมณ์เต็มไปหมด ป้าว่าเป็นภาษาเด็กที่ใส่

ความรู้สึกเข้าไปเยอะเหลือเกิน คือตั้งแต่เด็กชอบด้านภาษามาก และชอบการใช้ภาษาที่มีอารมณ์ แต่มีช่วงหนึ่งที่มันมากไปหน่อย (หัวเราะ)...แต่ บก.เขาชอบ ปีที่เขียน 1956 พิมพ์ประมาณ 1958"


สิ่งที่น่าสนใจนอกจากชิ้นงานเองแล้ว ยังมีแง่มุมที่ว่า เรื่องสั้นที่เขียนเสร็จในเวลาไม่เกินสองชั่วโมง ขณะที่นั่งอยู่ตามลำพังในบรรยากาศที่หนาวเย็นเรื่องนี้ มีความสัมพันธ์กับภาวะของอารมณ์ความรู้สึกของ

คุณหญิงเอง ที่อยู่ไกลบ้านและความเหงาลึกๆ ของการรอคอยคุณแม่ที่จากไปตั้งแต่คุณหญิงอายุเพียงสองขวบ


"คือไปอังกฤษตอนต้นปี 1952 อายุ 12 เพิ่งจะเต็ม อังกฤษสมัยนั้น ไม่เหมือนสมัยนี้ มันเศร้า บางครั้งมีหมอกที่เรียกว่า pea soup เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จัก เวลาหมอกแบบนี้ลงมาจะหายใจไม่ค่อยออก วันนั้นไม่ถึงกับ pea soup แต่สลัวมากแม้เป็นกลางวัน เป็นวันที่เศร้า...มีฝนอ่อนๆ เรื่องนี้ถ้าขยายก็เป็นหนังได้นะ (หัวเราะ)"


" ...ถามว่าเคย depress ไหม เพราะถูกส่งไปเรียนเมืองนอกโดยที่ภาษาไม่ได้เต็มที่ ไปเรียนภาษาแค่ 6 เดือน ก็ถูกส่งเข้าโรงเรียนที่ไม่มีคนต่างชาติเลย มีแต่คนอังกฤษ มีคนเดียวเป็นลูกครึ่งอเมริกัน นั่นต่างชาติที่สุดแล้ว แล้วเราหน้าตาไม่เหมือนเขา อะไรก็ไม่เหมือนเขา ภาษาก็ไม่ค่อยได้ ดินฟ้าอากาศก็ต่างกันมาก ของเราร้อนเป็นแสงทองไปหมด


"ตอนนั้นไปเดือนกุมภาด้วย อากาศสาหัสสากรรจ์ แล้วไปอยู่โรงเรียนแบบนั้น จริงๆ มันน่าจะ depress เข้ากับเขาไม่ค่อยได้เท่าไร เขาก็เห็นเราเป็นตัวแปลก แต่ป้าคิดว่า...ถึงเรื่องนี้มาเขียนตอนที่เราชินแล้ว เรารักอังกฤษแล้ว...แต่ว่ามันอาจจะเป็นงานที่ช่วยให้เราไม่ depress หรือเปล่า...ในแง่งานเขียนมัน

น่าสนใจเหมือนกัน เพราะว่าสำหรับตัวเอง คิดว่าเขียนเพราะอยากจะเขียนมากกว่าเขียนเพื่อให้คนอื่นอ่าน แต่เมื่อเขียนออกมา ก็มีอัตตาอยู่ว่าอยากให้คนอ่าน แต่จุดตั้งต้นของมันคล้ายๆ เป็นการช่วยตัวเองมากกว่า... โดยไม่รู้ตัว


"งานชิ้นนั้น น่าสนใจในแง่จิตวิทยาด้วยว่าทำไมเราถึงไม่เคย depress ทั้งๆที่มันน่าจะ depress

เพื่อนฝูงเขาเสาร์อาทิตย์ก็มีพ่อแม่มารับไป เราติดอยู่ที่โรงเรียน บางทีถูกล้อเยอะเหมือนกัน เพราะเราอาจจะเป็นคนหน้าตาแบบนี้คนเดียวที่เขาพบ เพราะสมัยนั้นอังกฤษ..ยังอังกฤ๊ษ อังกฤษ นะ

"งานชิ้นแรกนี้ แค่อยู่ในอารมณ์ที่จะเขียน ฝนตก จิตมันเศร้า เริ่มค่อยๆ เขียนโดยไม่รู้ว่ามันจะจบอย่างไร เขียนถึงบรรยากาศ เขียนถึงความรู้สึกนั้น ที่มีผลกับใจเรา


"เข้าใจว่าพวก Creative Artist มีสองแบบ คือแบบช่วยตัวเอง ด้วยการเอาสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา respresent ด้วยเครื่องมือต่างๆ ของการแสดงออก เพื่อแชร์ความคิด ความรู้สึก อีกส่วนคือการที่จะมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นข้างในตัวเอง ให้เห็นชัดๆ ว่าคืออะไร สำหรับป้าศรี งานแรกๆ โดยเฉพาะ ชุด

On the White Empty Page เป็นอย่างนั้นเกือบทั้งหมด

"อันนี้พูดแทนคนอื่น พูดถึงคนที่..คือใหญ่กว่าเรามาก อย่างเอดการ์ ชีวิตเขามันดาร์กมาก แล้วเขาผลิตงานที่ดาร์กออกมา แต่มันเป็นงานศิลปะชั้นเยี่ยม ป้าว่าเขาเขียนเพื่อตัวเขาเองมากกว่า เอาสิ่งที่มันมืดๆ ในตัว ออกมาเป็นงานครีเอทีฟ และมันก็งดงามมาก มันมีความจริงใจ

"วารสารเล่มที่ตีพิมพ์มี ม.ร.ว.ศิริกุล กิติยากร เป็น บก. ใครไปค้นอาจจะเจอ...รู้สึกเขินมากเหมือนกัน ว่ามันจะเว่อขนาดไหน นั่นคือเรื่องสั้นเรื่องแรก ซึ่งแทบไม่เขียนเรื่องสั้นเลยในชีวิต เรื่องสั้นเรื่องต่อๆ มา ที่เขียนก็เป็นนิทานเด็ก และไม่ได้เขียนเรื่องสั้นแบบนั้นอีกเลย"


(คุณหญิงจำนงศรีเล่าไว้ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2565)


........................................


หมายเหตุ 1 Moth นอกจากหมายถึงผีเสื้อกลางคืนแล้ว ยังใช้รวมถึง แมลงชีปะขาว และแมลงเม่า ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Mayflies ได้เช่นกัน

หมายเหตุ 2 ปี 1952 เกิดเหตุการณ์หมอกควันปกคลุมลอนดอน (Great Smog of London) เนื่องจากอากาศปิดและมลพิษจากถ่านหิน ส่งผลให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก /Pea soup fog เป็นหมอกหนา สีเหลืองอันเนื่องจากก๊าซกำมะถันที่เกิดจากการเผาเชื้อเพลิงถ่านหินเพื่อใช้ในบ้านและโรงงานอุตสาหกรรม


หมายเหตุ 3 อดการ์ แอลลัน โพ มีชีวิตที่เกี่ยวพันกับความตายตั้งแต่เยาว์วัย มารดาเสียชีวิตเมื่อเขาอายุเพียง 2 ขวบ และหนึ่งปีก่อนหน้านั้นพ่อของเขาหายสาบสูญไป ต่อมาตอนอายุ 15 หญิงที่เขารักมากก็จากไป และหลังจากพบรักใหม่แต่งงานได้ไม่นานภรรยาก็ตายจากไปเมื่อเขาอายุได้ 24 ปี สองปีต่อมาเขาได้พบคนรักเก่า และสานสัมพันธ์กันใหม่ แต่ขณะเดินทางกลับไปเตรียมแต่งงาน เขาพบจุดจบในวัยเพียง 40 ความตายของเขายังเป็นปริศนาจนทุกวันนี้ ว่าเหตุผลใดที่ทำให้นักเขียนชื่อดังนอนหมดสติอยู่ริมถนนในชุดเสื้อผ้าเก่าๆ เขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในอีก 4 วัน ต่อมา

ดู 21 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ที่คล้ายกัน

ดูทั้งหมด
bottom of page