top of page

สตรีดีเด่น ด้านจิตอาสา




ในวาระหอการค้าไทย ประกาศเกียรติคุณ สตรีดีเด่นประจำปี 2557 เพื่อเชิดชูสตรีไทย ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จและดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม กอปรด้วยคุณธรรม จริยธรรม เป็นแบบอย่างแก่สตรี

ทั่วประเทศ รวม 10 ท่าน และ คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์ สตรีดีเด่นด้านจิตอาสา เป็นตัวแทนกล่าวตอบรับการมอบโล่ห์เกียรติยศ


"ดิฉันเองต้องพูดว่า ดิฉันพูดแบบเป็นทางการไม่เป็นนะคะ เพราะฉะนั้นจะขอโทษด้วยถ้าพูดแบบกันเองไปหน่อยในคืนนี้นะคะ ก่อนอื่นดิฉันเชื่อว่าดิฉันได้รับเลือกเป็นตัวแทนสตรีทั้งสิบท่าน เพราะว่าดิฉันชราที่สุดนะคะ ก็ขอบคุณที่ให้โอกาสได้พูดนะคะ ต้องบอกว่าวันนี้มี หนังสือพิมพ์ นักข่าวมาสัมภาษณ์ คำถามหนึ่งก็คือว่าอุปสรรคในการทำงานก้าวข้ามอย่างไร หรือทำอย่างไรกับอุปสรรค


"อันนี้น่าสนใจ เพราะว่าพอจะตอบเขา ก็รู้สึกจริงๆ และดิฉันเชื่อว่าเพื่อนสตรีอีกเก้าท่านที่ได้รับรางวัลวันนี้อาจจะรู้สึกเหมือนดิฉัน ก็คือว่าอันที่จริงแล้ว ดิฉันไม่รู้สึกว่ามันมีอุปสรรคนะคะ ไม่รู้สึกจริงๆ คือการทำงาน มันมีที่ทำได้และที่ติดขัด แต่ว่าไอ้ที่ติดขัดนี่เราก็จัดการกับมันไปวันต่อวันนะคะ อะไรมันติดก็คิดแก้ปัญหาตรงนั้นและก็ทำไป ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นอุปสรรค ที่เราต้องเข้มแข็งกล้าหาญ ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น รู้สึกว่าชีวิตของการทำงานนี่มันมีอะไรเข้ามาที่เราทำได้และเห็นสมควรที่จะทำเราก็ทำ ก็แค่นั้น


"อีกอันก็คือคำถามว่าผู้หญิงเก่ง ดิฉันเชื่อว่าดิฉันพูดแทนเพื่อนๆ ได้เหมือนกัน ที่รับรางวัลวันนี้ ดิฉันคิดว่าขณะที่เรากำลังทำอะไรอยู่ ดิฉันไม่ได้รู้สึกว่าเราเก่งหรือเราไม่เก่ง เราก็คือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่เรามีงานที่จะต้องทำ แล้วเราก็ทำและสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ควรจะทำ และทำแล้วรู้สึกมันอิ่มที่จะทำก็แค่นั้น

เพราะฉนั้นต้องขอบคุณนักข่าวนะคะ ที่ทำให้ดิฉันมีอะไรจะพูดบนเวทีนี้


"อีกอย่างหนึ่งก็คือความเป็นผู้หญิงหรือความเป็นผู้ชาย อันที่จริงแล้วตั้งแต่เด็กมา ดิฉันรู้สึกน้อยใจมากเลยที่เป็นผู้หญิง ดิฉันเกิดในครอบครัวที่มีเชื้อสายจีน เพราะฉะนั้นความสำคัญของลูกผู้ชายมากมาย ส่วนลูกผู้หญิงเป็นอะไรที่น่ารัก ที่งดงาม ที่สดใส แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรนักหรอก ตั้งแต่เล็กมาจนโตอยากจะเป็นผู้ชาย อิจฉาพี่ชาย อันที่จริงพี่ชายดิฉันอาจจะเป็นที่รู้จักของท่านกรรมการหอการค้าเป็นอย่างดี ดิฉันรู้สึกอิจฉาเขามากเลย ความเป็นผู้ชายมันทำอะไรได้มากมาย


"แต่ ณ วันนี้ดิฉันรู้สึกดีใจที่เป็นผู้หญิง ทำไมล่ะ ดิฉันคิดว่าผู้หญิงเรามีความสามารถที่จะยืดหยุ่น ที่จะไม่ต้องบอกว่าเราเก่งหรือเราเข้มแข็ง เราแค่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วดิฉันก็รู้สึกว่า ณ ขณะนี้ดิฉันยิ่งพอใจในความเป็นผู้หญิงใหญ่เลย เพราะดิฉันมีสามีที่วิเศษสุดนั่งอยู่ตรงนั้นค่ะ ดร.ชิงชัย หาญเจนลักษณ์ ดิฉันคิดว่าผู้หญิงนี่ เพราะเราเป็นอะไรที่ไม่ใช่ว่าสำคัญเหลือเกิน เรากลับเป็นอะไรที่ได้รับความอบอุ่น ได้รับการยอมรับ เมื่อเราทำอะไรดีแม้กระทั่งนิดหนึ่งเขาก็บอกว่าเก่งแล้ว เรามีพี่น้อง มีลูกชายที่คอยจูงเราไม่ให้เราหกล้ม มันทำให้เรามีพลังของเราเองแบบผู้หญิงๆ ค่ะ


"ดิฉันจะเอาบทกวีที่ดิฉันเขียนไว้นานมากแล้ว ที่มันเป็นเรื่องของผู้หญิงนะคะมาอ่านให้ฟัง บรรทัดสุดท้ายของมันดิฉันเชื่อว่าเราผู้หญิงทั้งสิบคนเนี่ย เรามีสิ่งเหล่านี้ที่เรามาถึงวันนี้ได้นะคะ บรรทัดสุดท้าย ลองฟังดู


เขียนถึงลูกสาว ถึงความเป็นผู้หญิง


แม่มิใช่กวี จึงมิอาจกรองกลั่นความอ่อนหวาน

ความโหดร้าย และมายาหลากหลายของชีวิต

ให้เป็นมนต์ขลังที่จะอ้อยอิ่งในวิญญาณ

และดังกังวานในดวงใจเจ้าได้


แม่มิใช่นักปรัชญา จึงขาดไร้สติปัญญาที่จะอธิบายให้ลูกเข้าใจ

ถึงเหตุผลและหนทางของชีวิตและความตาย

และความยุ่งยากซับซ้อนทั้งหลาย

เพียงเพื่อดำรงอยู่ในโลกนี้


แม่มิใช่นักจริยธรรม จึงมิอาจสอนสั่งลูกให้ตัดสินเพื่อนมนุษย์

และประนามความชั่วผิดใดๆ

เพราะใครเล่าจะเข้าซึ้งถึงไฟปรารถนาอันเผาผลาญ

และความเจ็บปวดทรมานในดวงใจผู้อื่นได้


แม่เป็นแค่ผู้หญิงคนนึง จึงได้แต่จะวอนขอลูกให้ค่อยๆ รับรู้

ค่อยๆ สัมผัสผืนแพรหลากเนื้อของความเป็นจริงในชีวิต

และด้วยหัวใจผู้หญิง พยายามรับรู้ พยายามเข้าใจ

พยายามเถิดลูกรัก พยายามเรื่อยไป เรื่อยไป


"ดิฉันเข้าใจว่าบรรทัดสุดท้ายนี่ล่ะค่ะ พยายามเข้าใจ พยายามเรื่อยไป เรื่อยไป ที่ทำให้เราทำงานได้ ที่ทำให้เราร้อยใจกัน ที่จะสร้างประเทศให้ยั่งยืนได้ โดยที่ไม่คิดว่าจะสร้างหรอก แค่ทำไปด้วยความพยายามที่จะเข้าใจและเข้าใจ ขอบคุณค่ะ"

 

ดู 7 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page