พ้นเงามืดโรคซึมเศร้า… สู่แสงสว่างแห่งความสุข
- พจีพิไล
- 9 ก.ย.
- ยาว 1 นาที
พจีพิไล

โต๊ะป้าศรี โชคดีจริงๆ
ที่ป้าศรีมีโอกาสได้พบและคุยมีคุณหมอจิตใจงดงามคนหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้
คุณหมอได้กรุณาเขียนจดหมายมา เล่าเรื่องของโรคซึมเศร้า ส่งมาให้
แม้จะไม่ใช้ชื่อจริง แต่นามปากกาที่ใช้ในจดหมายฉบับนี้ เป็นนามแฝงที่นักเขียนนวนิยายระดับศิลปินแห่งชาติ รางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์ และรางวัลซีไรท์ กฤษณา อโศกสิน เป็นผู้ตั้งให้
….“พจีพิไล” แปลได้ว่า ถ้อยคำอันงดงาม #พจีพิไล
จดหมายถึงป้าศรี ฉบับที่ 1
“พ้นเงามืดโรคซึมเศร้า… สู่แสงสว่างแห่งความสุข”
กราบเรียนคุณหญิงจำนงศรีที่เคารพรัก
1. โรคที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังรอยยิ้ม
ในสังคมยุคปัจจุบัน พวกเราคงได้ยินคำว่า โรคซึมเศร้า อยู่บ่อยครั้ง หรือได้พบเห็นข่าวการจากไปของคนดังทั้งในและต่างประเทศ โดยไม่ทราบสาเหตุ หลายท่านภายนอกดูเหมือนมีความสุข มีทุกสิ่งครบถ้วน แต่แล้ววันหนึ่งกลับมีข่าวการจากไปด้วยการฆ่าตัวตาย
จากประสบการณ์การเป็นแพทย์ ที่ได้ดูแลใกล้ชิดผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามาเป็นเวลากว่า 25 ปี หนูจึงใคร่ขอแบ่งปันประสบการณ์ ทั้งในด้านความเข้าใจโรค และวิธีการดูแลรักษาที่เรียบง่ายแต่ได้ผล จากสิ่งที่ได้พบจริง
⸻
2. ความทุกข์ลึกที่สุดของมนุษย์
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า หรือผู้ที่อยู่ในภาวะซึมเศร้า แท้จริงแล้วพวกเราทุกคนล้วนมีโอกาสอยู่ในภาวะนี้ได้ทั้งสิ้น ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเป็นคนปกติ มิใช่ “คนบ้า” แต่เป็นผู้ที่มีความทุกข์ในระดับลึกที่สุด ลึกจนถึงที่สุดที่มนุษย์จะทุกข์ได้
ตลอดชีวิตการเป็นแพทย์เกือบ 30 ปี โรคที่สร้างความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยมากที่สุดคือ “โรคซึมเศร้า” ทุกข์มากกว่าการเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ทุกข์มากกว่าโรคร้ายแรงเช่นโรคเอดส์ เพราะผู้ป่วยโรคเหล่านั้นยังมีช่วงเวลาแห่งความสุข ยังมีความรู้สึกอยากอยู่ต่อ อยากหายป่วย
ตรงกันข้ามกับผู้ป่วยซึมเศร้าที่ความทุกข์นั้นเกิดขึ้นตลอดเวลา ทุกลมหายใจ ทุกเสี้ยววินาที ทั้งกลางวันและกลางคืน
ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ได้อยากฆ่าตัวตาย แต่การมีชีวิตอยู่กลับยากเกินทน สิ่งนี้เองที่เราเรียกว่า “death from inside”
⸻
3. เมื่อสิ่งที่รักกลายเป็นความว่างเปล่า
สิ่งที่เคยรัก เคยชอบ ก็กลับไม่รัก ไม่ชอบอีกต่อไป เช่น เคยชอบอ่านหนังสือก็อ่านไม่รู้เรื่อง เคยชอบดูหนังก็ไม่รู้สึกสนุกอีกแล้ว
จิตใจเต็มไปด้วยความทุกข์ แม้แต่ความรักของแม่ที่มีต่อลูกก็ถูกบดบังจนไม่รู้สึกรักลูกอีก เพราะหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่มีที่ว่างเหลือให้สิ่งอื่น เราจึงพบว่ามารดาที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หากคิดจะจบชีวิตตนเอง บางท่านอาจพาลูกจากไปด้วย
⸻
4. สาเหตุและวงจรของโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้ามีปัจจัยมากมาย เช่น ปมชีวิตในวัยเด็ก พันธุกรรม ปัญหาชีวิต ความเครียด การสูญเสียสิ่งที่รัก หรือการต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการ
หากจะกล่าวอย่างสั้นและเข้าใจง่าย โรคนี้เกิดขึ้นจากการที่คน ๆ หนึ่ง พบความทุกข์ที่หาทางออกไม่ได้ จนสมองเข้าสู่วงจรคิดซ้ำ ๆ หรือ vicious cycle — ยิ่งทุกข์ก็ยิ่งคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งทุกข์
ตัวอย่าง
ผู้หญิงคนหนึ่งพบว่าคนรักนอกใจ
• หากเลิกกับคนรัก ก็เลิกไม่ได้เพราะยังรักมาก
• หากอยู่ต่อ ก็อยู่ไม่ได้เพราะให้อภัยไม่ได้
• หากขอให้คนรักเลิกกับมือที่สาม คนรักกลับไม่ยอมเลิก
• หากจะยอมรับว่าคนรักมีคนอื่น ก็ไม่สามารถยอมรับได้
นี่คือภาวะ in between — กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไปซ้ายก็ไม่ได้ ไปขวาก็ไม่ดี สุดท้ายกลายเป็นความเครียดเรื้อรังและทุกข์ซ้ำวน
⸻
5. การดิ่งลึกของสมองและร่างกาย
โรคซึมเศร้าไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่เป็นผลจากการวนเวียนอยู่กับความทุกข์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน
หากความทุกข์สามารถหาทางออกได้ เราก็ไม่เข้าสู่ภาวะซึมเศร้า แต่หากความทุกข์นั้น คิดไม่ตก และ ยอมรับไม่ได้ สมองก็จะเริ่มติดอยู่ในวงจรความทุกข์ และค่อย ๆ ดิ่งลึกลงไปเหมือนตกลงสู่หุบเหว
ต่อมาสมองจะสร้างสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความเครียดและความทุกข์ เช่น cortisol ซึ่งทำร้ายร่างกายทุกระบบ ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและเริ่มแสดงอาการ
บางคนมือสั่นจนเขียนหนังสือไม่ได้ บางคนแต่งหน้าไม่ได้ เขียนขอบตาเลอะเลือน ทาลิปสติกเกินไปถึงแก้ม สิ่งเหล่านี้มิใช่การละเลย แต่เป็นผลจากโรค
⸻
6. อาการที่บีบคั้นทั้งร่างกายและจิตใจ
• นอนไม่หลับ มือเย็น ปลายเท้าจิก เกร็งทั้งร่างกาย เหงื่อท่วม
• กลัวคนในครอบครัวหรือเพื่อนร่วมงานอย่างไร้เหตุผล
• แยกตัว ไม่อยากพบเจอใคร แม้กระทั่งคนรักหรือเพื่อนสนิท
• กินมากจนน้ำหนักเพิ่มขึ้น 20–30 กิโลกรัม หรือกินไม่ได้ น้ำหนักลดลง 10 กิโลกรัม
• หลับมากจนนอนอยู่ในห้องมืดทั้งวัน หรือกลับกันคือนอนไม่หลับติดต่อกันหลายคืน
ผู้ป่วยบางกลุ่มเป็นคนเก่ง มีตำแหน่งใหญ่โต มีความรับผิดชอบสูง ภายนอกยิ้มแย้ม แต่ภายในหัวใจกำลังร้องไห้
⸻
7. การทำร้ายตัวเองและการต่อสู้เงียบ ๆ
อาการที่สะเทือนใจคือการกรีดข้อมือ ไม่ใช่เพราะอยากตาย แต่เพราะความเจ็บกายช่วยเบี่ยงเบนความเจ็บใจ แม้เพียงเสี้ยววินาทีก็ยังดี
นี่ทำให้เราเข้าใจว่า ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ไม่ใช่คนอ่อนแอ ตรงกันข้าม พวกเขาเข้มแข็งและต่อสู้อย่างถึงที่สุดแล้ว
⸻
8. ปิดท้ายจดหมายฉบับแรก
จดหมายฉบับแรกนี้ หนูได้เขียนถึงสภาวะจิตใจ ความทุกข์ และความกล้าหาญของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เพื่อให้เราเข้าใจว่าเบื้องหลังของความเงียบและรอยยิ้ม ยังมีหัวใจที่กำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง
ในฉบับต่อไป หนูใคร่ขอเล่าถึงวิธีการดูแลรักษาและการช่วยเหลือผู้ป่วยซึมเศร้า ทั้งจากมุมมองของผู้ดูแล ผู้ใกล้ชิด และตัวผู้ป่วยเอง
กราบขอบพระคุณคุณป้าศรีด้วยความเคารพรักอย่างสูง
พจีพิไล
6 กันยายน 2568
หมายเหตุ : จาก FaceBook โตีะป้าศรี CH Table




ความคิดเห็น