top of page

Unwanted Truth

จากงานเปิดตัว ชีวามิตร





คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์ ได้พูดถึงประเด็นต่างๆ ในการผลักดัน เรื่อง การตายดีในสังคมไทย ผ่าน การทำงานของชีวามิตร ว่า


เหตุได้มาทำงานด้านนี้


เพราะตัวเองเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความตาย เพราะคุณแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็กจำความ

ไม่ได้ แล้วก็ต้องตอบคนอื่นตลอดเวลาว่าคุณแม่ตายแล้ว ความตายมันมีผลกระทบกับชีวิตของคนอยู่มาก อย่างเช่นคนนี้จะสงสัยอยู่ว่าคนที่เขามีแม่มันเป็นยังไง เราไม่เคยสัมผัสอันนี้เลย


ตอนเป็นเด็กก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับความตายเยอะมาก เพราะฉะนั้นมันก็อยู่ในตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เหตุการณ์ที่ทำให้มาทำงานด้านนี้คือ การเจ็บป่วยของผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือมากท่านหนึ่ง ภาพที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทำงานคือ ภาพที่ท่านนอนอยู่บนเตียงในไอซียูถูกมัด แต่สติดีมาก มีเพียงสายตาที่พูดได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ดิฉันถามลูกของท่านว่าจะปล่อยท่านไปเมื่อไหร่ แต่ไม่มีใครตอบเพราะกลัวว่าจะเป็น การเป็นบาป เราเลยไปถามคุณหมอว่าสามารถจะทำอย่างไรได้บ้าง แต่ในตอนนั้นไม่มีความรู้ แต่พอเรามีความรู้ ก็เลยรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่กำลังต่อสู้ว่า เราทุกคนควรได้รับการอบรมอะไรต่ออะไร เช่นที่ชีวามิตรทำในตอนนี้


อันที่ฝังใจอีกเรื่องก็คือ คนในองค์กรของดิฉันที่เคยเป็นคนทำงานที่ดี และเราก็สังเกตได้ว่าการทำงานของเขาตก ศักยภาพในการทำงานของเขาลดลงอย่างชัดเจน และอาการซึมเศร้ามันปรากฏ ดิฉันก็เลยไปเช็คดูว่าทำไม ปรากฏว่าเขาเป็นหนี้นอกระบบ จากการยื้อชีวิตแม่ที่ในที่สุดก็ตายอย่างทรมาน แต่หนี้มัน

ไม่จบ


คนที่จะพูดถึงต่อคือ เพื่อนนักเขียน อรสม สุทธิสาคร ได้เล่ามา “หนูมาจาก Nothing เลย หนูสร้างตัวหนูมาจนมีรถ มีบ้าน คุณแม่เป็นมะเร็ง หนูสู้ตายเลยที่จะรั้งคุณแม่ไว้” ผลคือ “บ้านหนูไป รถหนูไป สุขภาพจิตหนูไป หนูตกอยู่ในอาการซึมเศร้า” กว่าจะกลับมาทำมีบ้านมีรถใหม่ คุณพ่อป่วยเป็นมะเร็งเหมือนกัน แต่จากการตายของคุณแม่ คุณพ่อเข้าใจและลูกสาวกับคุณพ่อคุยกันได้ พ่อตายจากอย่างสงบลูกสาวสถานะการเงินไม่ตกต่ำ




ความกตัญญู


ความกตัญญูที่แท้จริงกับคนที่เรารักกับคนที่มีบุญคุณกับเรามันคืออะไร มันกตัญญูในลักษณะใด ที่เราเรียนรู้ หรือกตัญญูจากความเข้าใจ โดยใจกับความรัก


ความกตัญญูที่ถูกปลูกฝังกันมา คือ ทนไม่ได้เลยที่จะเสียท่านไป "หนูจะอยู่ยังไงถ้าท่านต้องจากไป" หรือสามีภรรยาก็ตาม อันนี้คือความกตัญญูกับตัวเอง หรือผู้ที่จะจากไป "บาปหรือไม่" ใครกลัวใครบาป "ปล่อยไปได้ยังไง" กลัวความคิดของคนอื่น ส่วนใหญ่จะปนกันอยู่ทั้งหมด นี่คือสิ่งที่คงเป็นคำถามไปอีกทั้งชีวิต เพราะเราเป็นมนุษย์เหมือนกัน เลยเป็นเหตุผลให้ทำเรื่องนี้ และคงทำต่อไปทั้งชีวิต


สิ่งที่กลัว


ตอนนี้คนแก่ในประเทศไทยมากขึ้น ควบคู่กันไปนั้นคือวิทยาการทางการแพทย์ที่จะยื้อ ที่จะรักษา มันมาถึงจุดที่ว่าจุดไหนคือการยื้อชีวิต จุดไหนคือการยื้อความตาย


ยื้อชีวิตคือต่อสู้ทุกวิถีทาง ในกรณีที่ชีวิตจะกลับมามีคุณภาพได้ แต่ยื้อความตายคือการยื้อกระบวนการตายที่ยังไงก็หยุดไม่ได้ แต่มีวิทยาการที่จะยื้อมันได้เป็นปีๆ

หากถามว่าตอนนี้กลัวตายไหม สมัยก่อนตอบว่าไม่กลัว แต่ตอนนี้กลัวค่ะ เคยฝันว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ลูกกับสามีหายไปหมด โดยที่ไม่รู้อะไรเลย เรื่องนี้ทำให้รู้ว่ามนุษย์เรามีไม้ค้ำยันอยู่ 3 อย่างคือ ความสัมพันธ์ อำนาจควบคุม ความรู้ เป็นสิ่งที่เป็นตัวตนความเป็นมนุษย์ และความตายทำให้มันหายหมด คุณพร้อมไหมที่จะยืนอยู่ได้ด้วยจิตของคุณ ที่จะไม่มี 3 อย่างนี้


 


ติดตามเนื้อหาทั้งหมดได้ที่ :

 

ดู 9 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ที่คล้ายกัน

ดูทั้งหมด
bottom of page