top of page

กะเทาะความในใจนักเขียนนาม

คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์




หนึ่งในนักเขียนที่สร้างชื่อเสียงไว้ในแวดวงน้ำหมึก มีชื่อของ คุณหญิงจำนงศรี (รัดนิน) หาญเจนลักษณ์ รวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกวีนิพนธ์ นิทาน บทความ เรื่องสั้นและบทละคร ตลอดจนการแปลวรรณกรรมร่วมสมัย และมาวันนี้คุณหญิงจำนงศรีได้นำเรื่องราวการต่อสู้ของบรรพชน ในตระกูลหวั่งหลี ที่เคยปรากฎอยู่ในหนังสืองานศพของ คุณสุวิทย์ หวั่งหลี มาถ่ายทอดใหม่พร้อมข้อมูลใหม่ที่ได้จากการค้นคว้าในช่วง

1-2 ปีที่ผ่านมา จนกลายมาเป็น "ดุจนาวากลางมหาสมุทร" พ็อกเกตบุ๊กส์เล่มล่าสุดจากปลายปากกาของเธอ โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเขียนคำนิยมพระราชทานใว้ นอกจากนั้นยังมีคำนำของนักประวัติศาสตร์สังคมชื่อดังคือ ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ ส่วนเนื้อหาภายในเล่มจะเป็นอย่างไรต้องติดตามในบรรทัดต่อไป


ก่อนที่ดุจนาวากลางมหาสมุทรจะออกสู่หนอนหนังสือที่สนใจในเร็ววันนี้ คุณหญิงจำนงศรีเล่าถึงหนังสือเล่มนี้ว่า การได้เขียนหนังสือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบมากที่สุดในเวลานี้ เพราะเป็นสิ่ง

ที่อยากทำและได้ทำจริงๆ แม้จะขาดเวลาเขียนก็ตาม แต่ก็ทำให้ชื่นใจและมีความสุขยามเมื่อเห็นผลงาน

เป็นที่พอใจของนักอ่าน


ส่วนที่มานั้นอย่างที่หลายคนทราบกันมาบ้างแล้วว่าเป็นหนังสือในงานศพของคุณสุวิทย์ หวั่งหลี โดย

คุณหญิงจำนงศรีซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนเขียนหนังสือคนเดียวในเครือญาติได้เขียนขึ้น และในความรู้สึกขณะนั้นมีสิงทีพิเศษที่เกิดขึ้นว่า การค้นคว้ามิใช่จบอยู่ที่หนังสืองานศพ แต่ใด้ค้นคว้าเพิ่มเข้าไปในเกร็ดประวัติของตระกูลและกลายเป็นเรื่องราวที่มีสีสันหลากหลายอย่างมากมาย มีทั้งจุดที่สดใสและมืดมนที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นเกร็ดความรู้ที่มีหลักฐานประกอบอย่างชัดเจนมาก หลังจากที่ค้นคว้าเข้าไปให้ลึกมากขึ้น


คุณหญิงนักเขียนยังบอกด้วยว่าในการเขียนหนังสือแต่ละเล่ม รวมทั้งเล่มล่าสุดนี้ ได้บอกให้ผู้อ่านทราบว่า เราพบอะไร คิดอะไรและได้อะไร ผ่านตัวหนังสือ มากกว่าที่จะมองจากมุมของคนอ่านว่าจะได้อะไรบ้าง

หรือสอดแทรกอะไรให้แก่คนอ่าน ซึ่งแม้จะไม่ใช่การเขียนหนังสือที่ถูกต้องนัก แต่สำหรับตัวคุณหญิงเอง การเขียนในลักษณะนี้จะได้งานที่ดีกว่า คือการเขียนจะเขียนถึงสิ่งที่ค้นพบ ความรู้สึกจากการค้นพบ อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดจากการค้นพบนั้น มุมมองที่เกิดจากการศึกษาและค้นคว้า



ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นหนังสือเด็ก กวีนิพนธ์ บทความต่างๆ ก็จะออกมาในแนวนี้ทั้งสิ้น ซึ่งจะเห็นได้จากหนังสือเด็กที่ผ่านสายตามาหลายเล่มแล้ว จะเขียนจากตัวของตัวเอง จึงเป็นนิทานเด็กที่มีความเป็นผู้ใหญ่ปนอยู่


ส่วนดุจนาวากลางมหาสมุทรเล่มนี้ คุณหญิงจำนงศรีเป็นเสมือนนักสำรวจที่เดินตามสายธารเล็กๆ ที่ค่อยๆ

กว้างขึ้นจนกลายมาเป็นแม่น้ำสายใหญ่และกลายเป็นผลงานในที่สุด เพราะจากเรื่องราวที่หมู่บ้านโจ่ยโคย ประเทศจีน ซึ่งย้อนหลังไป 600 ปี เป็นที่เกิดของตระกูลหวั่งหลี ซึ่งเป็นครอบครัวชาวนาที่ยากจน กรรมกรในเมืองนี้ จนมาสู่เรื่องราวที่มากมายในภายหลัง ทั้งในเมืองจีนและไทย คุณหญิงได้สื่อสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ มันไม่มีสิ่งใดที่แน่นอน ทุกอย่างเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง เสมือนเรือที่แล่นอยู่ในท้องทะเล บางครั้ง

ไต้ก๋งเก่งเพียงใด ก็ไม่สามารถพาเรือวิ่งไปสู่จุดหมายปลายทางได้ แต่บางครั้งเมื่อคลื่นลมสงบไม่ต้องอาศัยความเก่งของไต้ก๋งเรือก็ไปสู่จุดหมายได้ไม่ยาก และยังสื่อให้เห็นถึงความอ้างว้างของคน ที่ยามเจ็บปาดแม้คนที่รักกันที่สุดก็ไม่สามารถช่วยแบกความเจ็บนั้นได้ จึงเหมือนกับเรือกลางมหาสมุทรที่อ้างว้างอยู่บนเส้นทางของเวลา


นอกจากนั้นยังมีข้อมูลสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ค้นพบใหม่ ตลอดจนหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ที่

บางอย่างนึกไม่ถึง ซึ่งได้จากการเล่าของคนไม่กี่คน แต่ทำให้ข้อมูลแน่นมากขึ้น ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะ

ถูกบันทึกไว้ในดุจนาวากลางมหาสมุทร


ในเดือนกุมภาพันธ์ คุณหญิงจำนงศรีจะมีผลงานเรื่อง แสดแปดขา ซึ่งเป็นเรื่องราวของแมงมุมตัวเล็ก

สีแสด โดยภาพประกอบนั้นเป็นฝีมือของสมรรถ คุ้มสุวรรณ ศิลปินผ้าชาวโคราช ที่เคยไปสร้างชื่อเสียงเรื่องผ้ามัดหมี่ในประเทศญี่ปุ่น ได้ทอผ้ามัดหมี่เป็นภาพประกอบ ซึ่งใช้ความพยายามมากกว่าจะเสร็จสิ้น จึงใช้เวลานานกว่า 2 ปี จึงถึงผู้อ่าน และในช่วงกลางปี คุณหญิงจำนงศรีจะมีผลงานใหม่ On the White Empty Page and More ซึ่งรวมบทกวีและนิทานภาษาอังกฤษที่เคยตีพิมพ์ไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เกิดขึ้นใหม่

พร้อมบทใหม่ที่เพิ่มขึ้น และบางส่วนมูลนิธิเด็กได้นำมาแปลเป็นภาษาไทยบ้างแล้ว


....แม้ชีวิตของคุณหญิงจำนงศรีจะเต็มไปด้วยงานสารพัด แต่งานเขียนหนังสือก็เป็นงานหนึ่งที่รัก แม้จะทำให้เหนื่อยยาก แต่เป็นความสุขที่ได้จากตัวหนังสือเหล่านี้


 

จาก : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับ วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2541

ดู 12 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page