Poet: Believed to have been composed in
the early Ayutthaya period (1350-1569 AD),
Lilit Phra Lor is a masterpiece
Thai tragic romance.
It was praised in 1916
by the Literature Society
as the best example of ‘lilit’ poetic form
เรื่อง ลิลิตพระลอ ได้รับการยกย่อง
เป็นวรรณคดีชั้นเยี่ยม
ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง คาดว่าแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น (พ.ศ.1991-2076)
Translate: Chamnongsri Rutnin (Hanchanlash)
แปล คุณหญิงจำนงศรี รัตนิน (หาญเจนลักษณ์)
Illustration : Hem Vejakorn ,
From Hem Vejakorn Foundation
ภาพประกอบ ของ เหม เวชกร
จากมูลนิธิเหม เวชกร
30
Oh, cousins, about whom are voices raised?
In whose praise do all the world sing?
Is your sleep so deep you forget to wake?
Think, sisters, beg not us to speak.
เสียงฦๅเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่
สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ ฯ
31
Fret over this no more, dear loves.
We ourselves shall think of ways
To bring the king to mate with both.
Veiled summons shall be sent.
สิ่งนี้น้องแก้วอย่า โศกา ณแม่
เผือจักขออาสา จุ่งได้
ฉันใดราชจักมา สมสู่ สองนา
จักสื่อสารถึงไท้ หากรู้เปนกล ฯ
32
Wrong thoughts are shameful, cousins,
Women beckoning a man to come.
Better to die of longing
For we love he who knows us not.
ความคิดผิดรีตได้ ความอาย พี่เอย
หญิงสื่อชักชวนชาย สู่หย้าว
เจ็บเผือว่าแหนงตายดีกว่า ไส้นา
เผือหากรักท้าวท้าว ไป่รู้จักเผือ ฯ
33
Such thoughts are not wrong, my loves,
Wiles woven for love are forever right.
We shall go to every witch doctors.
And see if the king can resist their charms.
ไป่ห่อนเหลือคิดข้า คิดผิด แม่นา
คิดสิ่งเปนกลชิด ชอบแท้
มดหมอแห่งใดสิทธิ์ จักสู่ ธแม่
ให้ลอบลองท้าวแล้ อยู่ได้ฉันใด ฯ
34
Inwardly both were pleased outwardly both denied replying that the shame was we great of goodness none if anyone should discover royal daughters would be shamed names dishonoured over in what corner would we hide our faces the two companions understood their princesses ‘ hidden wish
ภายในสองนางขอบ ว่ามิชอบภายนอก ดอกห้ามว่าผิดใหญ่ เขือคิดใช่ความดี มีผู้รู้น่ากลัว เสียตัวเขือลูกไท้ จะไว้ผิดในแหล่งหล้า จะไว้หน้าแห่งหนใด ข้าเดาใจสองสบ พบกระแหน่สองศรี ใจกษัตรีย์มีเสียชอบ เราจะประกอบจงควร ซึ่งสองครวญจุ่งได้ ไว้ความร้ายแก่เรานา ข้าก็ว่าสองพงาอยู่เกล้า สองท้าวเจ้าไป่รู้ ไว้เผือผู้อาสา ครานี้พี่บผิด ความคิดสองบได้ สองบพิตรจักไว้ สองพี่เลี้ยงเยียใด ฯ
183
As though dying she wept and beat her breast.
Mother’s words repeated over years wasted,
Or is your karma misleading you, oh king?
Knowing yet not knowing, distraughted and lost.
ทาบตีอกไห้พ่าง เมือมรณ์
คำแม่สอนสุดสอน บ่ได้
รอยกรรมราชจักหลอน จักล่อ พระฤๅ
รู้เท่ารู้เว้นไว้ กลัดกลุ้มมัวมนท์ ฯ
184
Seven full days spent in retreat, my son,
Gathering enough merit to fill the sky,
All to conceive a son of righteous heart,
That was how I came to have you, my son.
จำศีลบท่อยถ้วนเจ็ดวัน ลูกเอย
คลังคลี่ทานผลปัน เท่าฟ้า
ขอมีลูกใจธรรม์ ชายชอบ ใจนา
แม่จึ่งได้เจ้าหล้า แม่แล้สุดใจ แม่เอย ฯ
185
Full ten months I held you in my womb,
Not one moment did I forget my condition.
From the minute when you were born
I held and bathed you with the tenderest care.
สิบเดือนอุ้มท้องพระ ลอลักษณ์
สงวนบ่ลืมตนสัก หนึ่งน้อย
ตราบพระปิ่นไตรจักร เสด็จคลอด มานา
ถนอมอาบอุ้มค้อยค้อย ลูบเลี้ยงรักษา ฯ
186
And three times a day I fed you
Not letting anyone handle you wrongly,
Protecting you the sharer of my life,
And tended you till you could feed yourself.
แลวันสามคาบป้อน เปนนิตย์
บมิให้ใครทำผิด แผกเจ้า
แสนสงวนคู่ชีวิต ฤๅใคร่ กลายเลย
เทียรผดุงคุ้งเท้า ตราบรู้เสวยเอง ฯ
187
With care I prepared your repast
Never overlooking the minutest part,
Tasting and dressing every dish,
Never trusting others to take my place.
บัญจงกับเข้าแต่ง ของเสวย
บมิได้เลินเล่อเฉย หนึ่งน้อย
สรรพเครื่องพระลูกเฮย ไตรตรวจ แต่งนา
บวางใจกึ่งก้อย . แก่ผู้ใดทำ ฯ
188
I nurtured you since infancy
Till you grew into manhood
And mounted this royal throne,
Your parting would kill me with grief?
แต่น้อยแม่พรํ่าเลี้ยง รักษา พ่อนา
จนเจริญชนมา ตราบได้
สมบัติผ่านภูวดา ถวัลยราช
ฤๅพ่อจำจากให้ แม่นี้ตรอมตาย ฯ
189
In life I had hoped for haven in you,
In death for you care of my remains,
Now that you are leaving my bosom
Who will light your mother’s funeral pyre?
คงชีพหวังได้พึ่ง ภูมี พ่อแล
ม้วยชีพหวังฝากผี พ่อได้
ดังฤๅพ่อจักลี ลาจาก อกนา
ผีแม่ตายจักได้ ฝากให้ใครเผา ฯ
190
“Beyond holding back, sovereign lord,
Beyond heeding your mother’s words,
My heart is weighed with grief;
Remaining here to burn in sadness.”…
สุดใจสุดแม่ห้าม. ภูธร
สอนบ่ฟังแม่สอน จักเต้า
หนักใจหนักอาวรณ์ ทุกข์ใหญ่ หลวงนา
แม่อยู่ตั้งแต่เศร้า โศกร้อนฤๅเสบย ฯ
199
“Thrive and grow in glory and might,
Be you untroubled by all ills,
Let all foes succumb to your powers,
Be joyful and untouched by woes,
จงเจริญศรีสวัสดิเรื้อง เดชา
ทุกข์โศกโรคไภยา อย่าพ้อง
ศัตรูหมู่พาลา พาลพ่าย ฤทธิ์พ่อ
เสวยสุขอย่าเคืองข้อง ขุ่นแค้นอารมณ์ ฯ
200
May you have your wish with the two,
May you not be snared by their charms,
May you not forget Mother’s teachings,
May you soon return to this brave kingdom”
ขอลุสมสบสร้อย สองนาง
ขออย่าลุเล่ห์ทาง เสน่ห์นั้น
ขอคิดอย่าใจจาง คำแม่ สอนนา
ขอพ่อเร็วคืนกั้น ขอบแคว้นไกรกรุง ฯ
208
Then to the chamber of the major consort
To bid farewell.
เสร็จผายผันสู่ห้อง เรือนหลวงโลมลาน้อง
อยู่เจ้าจงดี แม่ฮา ฯ
209
I am leaving you behind but don’t grieve
Soon I shall be back with you.
เรียมจะลีลาสเต้า อยู่แม่อยู่อย่าเศร้า
ไป่ช้าคืนสม แม่แล ฯ
210
Laksanawadi grieved so sorely that blood
Nearly flowed from her flooded eyes.
ลักษณวดีกรมทรวงสร้อย ทุกข์แทบเลือดตาย้อย
เนตรนํ้านองนูน ฯ
211
Homage to my king, would you leave me
To stay all alone?
นบนิ้วทูลเจ้าหล้า พระองค์อาจละข้า
บาทไว้ผู้เดียว พระเอย ฯ
212
Long roads are full of beasts and ghosts
That trick and haunt
ทางไกลเปลี่ยวสัตว์ร้าย ผีคนองหลอนคล้าย
ทำเล่ห์ให้เห็นตัว ฯ
290
Less than a wife is a hundred lovers,
Less than a mother a thousand wives,
Hard it is to give birth and rear a child,
To you, dear Mother, so much is owed.
ร้อยชู้ฤๅเท่าเนื้อ. เมียตน
เมียแล่พันฤๅดล แม่ได้
ทรงครรภ์คลอดเปนคน ฤๅง่าย เลยนา
เลี้ยงยากนักท้าวไท้ ธิราชผู้มีคุณ ฯ
コメント